บริจาคเลือด
บริจาคเลือด สามารถทำได้ทุกๆ 3 เดือน ตามความเหมาะสมของร่างกายของผู้ที่จะบริจาค ซึ่งควรเตรียมตัวก่อนไปบริจาคโลหิต และต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- นอนหลับให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง ในคืนก่อนบริจาคโลหิต
 - มีสุขภาพพร้อมสมบูรณ์ดีทุกประการ ไม่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ หรือโรคประจำตัวอื่นๆ
 - ไม่อยู่ระหว่างทานยารักษาโรคบางอย่าง
 - ควรรับประทานอาหารก่อนการบริจาคโลหิต และงดอาหารที่มีไขมันสูงและหวานจัด
 - ดื่มน้ำ 3-4 แก้ว ในช่วงเวลา 20-30 นาที ก่อนการบริจาคโลหิต จะช่วยป้องกันการเป็นลมและอาการแทรกซ้อนต่างๆ
 - งดสูบบุหรี่ก่อนการบริจาค 1 ชั่วโมง
 - งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง 8งดการบริจาคโลหิตเมื่อเป็นหวัด ท้องเสีย น้ำหนักลด หรือเจ็บป่วย
 
เพียงแค่นี้คุณก็สามารถบริจาคเลือด เพื่อสร้างกุศลได้อย่างถูกต้อง สมบูรณ์และปลอดภัย ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
การดูแลตนเองหลังบริจาคเลือด
- นอนพักประมาณ 5 นาที ก่อนลุกจากเตียงบริจาค
 - ดื่มเครื่องดื่มเท่ากับหรือไกล้เคียงกับจำนวนโลหิตที่บริจาคไป และนั่งพักอย่างน้อย 15 นาที ก่อนกลับบ้าน
 - ไม่ชึ้น ลงลิฟท์ หรือบันไดเลื่อนที่มีความสูงชันมากๆ เพราะอาจทำให้รู้สึกวิงเวียนและเป็นลมได้
 - ไม่ใช้กำลังแขนข้างที่เจาะบริจาค เช่น ยกของหนักๆ
 - ไม่ออกกำลังกายที่ทำให้เสียเหงื่อมาก
 - ทานยาเสริมธาตุเหล็ก
 
ข้อดีของการบริจาคเลือด
- กระตุ้นให้ไขกระดูกทำงานได้ดีขึ้น
 - ร่างกายสร้างเม็ดเลือดใหม่
 - ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ผิวพรรณสดใส
 
เลือดที่เราบริจาคนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง?
ในโลหิต 1 ถุง สามารถนำไปแยกเป็น เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด พลาสมา หรือ น้ำเหลือง เพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วย โดยส่วนใหญ่ 77 เปอร์เซ็นต์ ใช้เพื่อทดแทนเลือดที่เสียไปในภาวะต่างๆ เช่น อุบัติเหตุ ผ่าตัด โรคกระเพาะอาหาร หรือการคลอดบุตร
ส่วนอีก 23 เปอร์เซ็นต์ นำไปใช้กับเฉพาะโรคเลือด เช่น โรคโลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ โรคธาลัสซีเมีย และโรคโมฟีเลีย
รู้หรือไม่?
- เลือดที่เราบริจาคสามารถเก็บไว้ได้นานที่สุดแค่ 42 วันเท่านั้น
 - หลังการบริจาคโลหิต ถ้ามีอาการไม่สบายและไม่มั่นใจว่าโลหิตที่บริจาคปลอดภัย ให้โทรแจ้งหน่วยงานที่ท่านไปบริจาค
 
 
